" ปัญหาโหนกแก้ม "ใหญ่ไปหรือป่าว ? เช็คให้ชัวร์

“ปัญหาโหนกแก้มใหญ่” ต้องทำยังไง..ก่อนจะเลือกวิธีแก้ไขแต่อย่าลืมลองกลับมาเช็คหน้าเราดูก่อนว่าจุดที่ทำให้ความมั่นใจของเราหายไป เป็นเพราะปัญหาโหนกแก้มใหญ่จริงหรือเปล่า?? และสาเหตุเกิดจากอะไร??

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าโหนกแก้มของเรานั้น ส่วนที่เราสามารถลดขนาดได้มี 3 ส่วน ไล่จากชั้นนอกไปชั้นใน ได้แก่

1.ชั้นไขมัน (Subcutaneous fat)

2.ชั้นกล้ามเนื้อ (Muscle)

3. กระดูก (Bone)

HOW TO CHECK โหนกแก้มใหญ่!!!!

แบ่งสัดส่วนใบหน้าออกมาเป็นข้างละ 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 บริเวณหัวตา ถึง บริเวณกลางดวงตา ส่วนที่ 2 บริเวณกลางดวงตา ถึง บริเวณหางตา ส่วนที่ 3 บริเวณหางตา ถึง บริเวณโหนกแก้ม (ตำแหน่งที่ยื่นออกมากที่สุด)

เช็คแล้วพบว่า : ส่วนที่ 3 แคบกว่า ส่วนที่ 2

หมายความว่า โหนกแก้มของคุณไม่ได้ใหญ่เลย ตรงกันข้ามอาจมีขนาดเล็กหรือแคบเกินไปด้วยซ้ำ แต่หากคุณโอเคกับไซต์ประมาณนี้แล้วก็ไม่ต้องเก็บมาวิตกเป็นปัญหา โดยรวมแล้วถือเป็นกรอบหน้าในฝันของหลายๆ คน แต่ข้อเสียของความแคบนี้อาจทำให้ดูหน้าตอบ ฝ่อ จนดูไม่สดใสได้ ซึ่งแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ ฉีดไขมัน ไปจนถึงผ่าตัดเสริมโหนกแก้มได้

เช็คแล้วพบว่า : ส่วนที่ 3 กว้างกว่า ส่วนที่ 2

หมายความว่า โหนกแก้มของคุณใหญ่จริงค่า หากกว้างเกินส่วนที่ 2 ไปไม่มากยังถือว่าโหนกใหญ่ในระดับปกติ แต่หากวัดแล้วได้ส่วนที่ 3 กว้างกว่าส่วนที่ 2 ไปเกือบเท่า โปรดรู้ไว้ว่าโหนกแก้มใหญ่ที่แท้ทรูมีอยู่จริง

วิธีแก้ “ปัญหาโหนกแก้มใหญ่”

1.ฟิลเลอร์ (Filler) คือการเติมฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์แก้มตอบ ให้เติมเต็มส่วนที่ลึกให้มีเนื้อขึ้นมาก็จะช่วยทำให้ความสูงของโหนกแก้มดูลดลง ดูกลมกลืนรับกับกรอบหน้ามากขึ้น

1.1.ฉีดฟิลเลอร์ตรงบริเวณใต้โหนกแก้ม เหมาะสำหรับคนที่มีแก้มตอบโหนกแก้มสูง เมื่อเติมฟิลเลอร์ (Filler) จะทำให้ใบหน้าได้รูปขึ้น เป็นการเติมเพื่อให้โหนกแก้มดูเล็กลง ลดความแข็งของใบหน้าให้ดูซอฟลง

1.2.ฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับนั้นสามารถช่วยลดความเด่นของกระดูกโหนกแก้มเราลงได้ การฉีดฟิลเลอร์ขมับ สามารถลดความเด่นของโหนกแก้มเราได้จริง สาวๆที่หน้าบาน กระดูกใหญ่ ไม่อยากทำศัลยกรรม ทางเลือกในการ”ฉีดฟิลเลอร์ขมับ”นี้ ถือเป็นทางเลือกที่ดีมาก ใครที่ยังงงๆอยู่ ว่าเติมขมับจะช่วยได้ยังไง ลองดูรูป กระโหลกเรา เมื่ออายุมากขึ้น ไขมันตรงส่วนนี้จะค่อยๆหายไป ทำให้เราเห็นกระดูกโหนกแก้มชัดเจนเรื่อยๆ การเติมเต็มขมับ เลยจะช่วยปรับรูปหน้าของเราให้กลายเป็นรูปไข่อีกครั้ง

สำหรับข้อดีของการเติมเต็มขมับ ไม่ได้มีเพียงแค่ลดความเด่นของกระดูกโหนกแก้มเราลง แต่ยังมีส่วนช่วยอื่นๆอีก คือ

-ช่วยยกหรือพยุงหน้าส่วนล่างขึ้น

-ทำให้ใบหน้าเราดูอ่อนวัยลง

-รูปหน้าหวานขึ้น ไม่แข็งแบบโครงหน้าผู้ชาย

2.เมโสแฟต (Meso Fat)

เนื่องจากโหนกแก้มเรามีไขมันเป็นส่วนประกอบจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละคน ดังนั้นวิธีใดก็ตามที่ทำให้ไขมันลดลงสามารถช่วยให้โหนกแก้มเล็กลงได้ ดังนั้นการใช่เมโสแฟต วิธีนี้เป็นที่นิยมเนื่องจากมีความปลอดภัยสูง เจ็บน้อย ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น แต่หลังฉีดต้องพยายามควบคุมไม่ให้อ้วนขึ้น เพราะจะทำให้ไขมันกลับมาใหม่ได้ คนที่ทำแล้วได้ผลดีต้องมีไขมันที่โหนกแก้มค่อนข้างเยอะ

3.โบท็อกซ์ (Botox)

โหนกแก้มของเรามีส่วนประกอบที่เป็นกล้ามเนื้อที่ชื่อ กล้ามเนื้อ (zygomaticus) การฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม คือการเข้าไปลดขนาดกล้ามเนื้อนี้ ทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง โหนกแก้มจึงมีขนาดเล็กลงได้ แต่วิธีนี้มีข้อเสียอยู่บ้างคือ ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะเพราะกล้ามเนื้อบริเวณโหนกแก้มนั้นมีผลกับการยิ้ม ถ้าฉีดผิดตำแหน่งอาจทำให้ปากเบี้ยวได้นั่นเอง อีกทั้งโบท็อกซ์เป็นยาที่ออกฤทธิ์ชั่วคราวต้องมาเติมซ้ำทุก 6 เดือน

4. ผ่าตัดทุบโหนกแก้ม/กรอกระดูกโหนกแก้ม (Cheekbone Reduction Surgery)

เป็นวิธีลดโหนกแก้มแบบถาวร โดยใช้วิธีผ่าตัด/กึ่งผ่าตัด เพื่อลดกระดูกบริเวณโหนกแก้ม เหมาะกับคนที่มีปัญหากระดูก แต่เป็นวิธีที่เจ็บที่สุดและต้องพักฟื้น ความเสี่ยงมากกว่าวิธีอื่น นิยมมากในเกาหลี วิธีนี้สามารถแก้ปัญหาโหนกแก้มได้อย่างถาวร